อันตรายของรังสีคอมพิวเตอร์ต่อผิวหนัง
เป็นเรื่องยากที่จะทำให้สุขภาพผิวเป็นอย่างที่ใจต้องการ เมื่อต้องทำงานอยู่หน้าจอคอมนานนับชั่วโมงผลกระทบของรังสีคอมพิวเตอร์ต่อผิวหนัง
อาการคัน เป็นผลกระทบที่เกิดจากการได้รับรังสีในปริมาณน้อย เป็นระยะเวลาสั้นๆ ผิวหนังจะดำขึ้น หลอดเลือดที่อยู่ใต้ผิวหนังเกิดการขยายตัว ทำให้เกิดอาการคันและอักเสบ เกิดผิวหนังร้อนแดง
ผิวหมองคล้ำ ริ้วรอย ตีนกา คอมพิวเตอร์ทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับผิวหนัง ซึ่งจะพบได้ตั้งแต่ไม่มีแผล แต่รู้สึกแสบร้อน ผิวดำคล้ำ เหมือนตากแดด หรือได้รับปริมาณมาก ผิวหนังจะค่อยๆ แดงขึ้น ต่อมาพองออกเป็นถุงน้ำใส เมื่อถุงน้ำแตกออกจะเห็นเป็นเนื้อแดงเหมือนถูกไฟไหม้ อาการเหล่านี้มีสาเหตุมาจากจอคอมพิวเตอร์เป็นไฟฟ้าสถิตประจุลบประกอบกับหน้า จอมักจะมีฝุ่นมาจับ เมื่อเรานั่งใกล้จอคอมพิวเตอร์ ตัวเราเป็นที่ไฟฟ้าประจุบวก ไฟฟ้าสถิตประจุลบจากจอคอมพิวเตอร์จะวิ่งเข้าสู่ใบหน้าที่เป็นประจุบวกพร้อม กับพาฝุ่นผงที่ทำให้เกิดผื่นคัน โรคผิวหนัง มาที่ใบหน้า แก้มและรอบดวงตาของเรา นอกจากนี้อาจมีสาเหตุมาจากคอมพิวเตอร์สามารถปล่อยรังสี UVA รวมไปถึงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมาได้ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดกระฝ้าที่คาดไม่ถึง ทั้งนี้เพราะทางด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลังจอคอมพิวเตอร์จะมีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าปล่อยออกมาในเวลาเดียวกัน
ผิวหนังไหม้ ผลกระทบจากการได้รับรังสีจะพบได้ตั้งแต่ไม่มีแผล แต่รู้สึกแสบร้อน เหมือนตากแดด หรือได้รับปริมาณมาก ผิวหนังจะค่อยๆ แดงขึ้น ต่อมาพองออกเป็นถุงน้ำใส เมื่อถุงน้ำแตกออกจะเห็นเป็นเนื้อแดง ไหม้ เหมือนถูกไฟไหม้
มะเร็งผิวหนัง ผลกระทบจากการได้รับรังสีจะขึ้นอยู่กับขนาดหรือปริมาณ ระยะเวลา การซึมผ่านเข้าเนื้อเยื่อ ความยาวคลื่น ระดับพลังงานแสง และคุณลักษณะของผิวหนัง ผิวหนังจะเกิดการเปลี่ยนสีเป็นสีดำขึ้น เกิดผิวหนังร้อนแดงเนื่องจากเลือดคั่ง เกิดผิวไหม้ ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีทฤษฎีใดที่สามารถบ่งได้เด่นชัดว่า การได้รับแสงยูวีทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง แต่จากตัวเลขของผู้ป่วยที่มารักษา พบว่า คนที่อยู่สัมผัสแสงยูวีบ่อยๆ เช่น ผู้ที่ต้องทำงานกลางแจ้ง หรือผู้ที่อยู่ในโซนร้อน จะมีอาการแพ้บนผิวหนัง และมีการเกิดมะเร็งบนผิวหนังด้วย
วิธีป้องกันอันตรายรังสี จากคอมพิวเตอร์ต่อผิวหนัง
อุปกรณ์ป้องกันรังสีจากคอมพิวเตอร์
แผ่นกรองรังสี การใช้แผ่นกรองรังสีติดไว้ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์จะช่วยลดการกระจายรังสีจาก คอมพิวเตอร์ ซึ่งความสามารถในการลดการกระจายรังสีนั้น ขึ้นอยู่กับคุณภาพของแผ่นกรองรังสี
ครีม ครีมจะช่วยปกป้องผิวไม่ให้หมองคล้ำและได้รับอันตรายจากรังสีความร้อน และมีส่วนช่วยในการปรับสภาพผิวที่หมองคล้ำ ไหม้ ให้สีผิวสว่างใส มีลักษณะของผิวหนังที่ดีขึ้น
ปลูกต้นไม้ดูดซับรังสี ต้นกระบองเพชรสามารถช่วยลดปริมาณรังสีจากคอมพิวเตอร์ได้ซึ่งได้ข้อมูลมาจาก บทความเกี่ยวกับความเจ็บป่วยจากจอคอมพิวเตอร์ของโรเจอร์ได้อ้างถึงผลวิจัย ของสถาบัน Recherches en Geobiologie ของสวิตเซอร์แลนด์ นอกจานี้ต้นกระบองเพชรมีขนาดต้นที่เล็กและกระทัดลัดทำให้ดูไม่เกะกะ เมื่อออกดอกจะมีสีสันสวยงามทำให้ดูผ่อนคลายได้
ทานผักผลไม้ ผลไม้มีส่วนช่วยในการป้องกันจากผลกระทบของรังสีเนื่องจากผลไม้อุดมไปด้วย วิตามินและสารอาหารหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อผิวหนังของมนุษย์เช่นวิตามิน ซีที่ส่วนช่วยในการสร้างคลอลาเจนมีวิตามิน E ช่วยทำให้เพิ่มอายุของคอลาเจนใต้ผิว lycopene ป้องกันผิวเสียจากรังสียูวี เบต้าแคโรทีน ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ อาหารที่จำเป็นสำหรับผิว วิตามินและสารอาหารเหล่านี้มากได้ในมะนาว ส้ม กีวี หรือพบในผักพวกมะเขือเทศ แครอท ถั่วฝักยาว เป็นต้น นอกจากนี้ผลไม้ยังช่วยในการบำรุงและเป็นประโยชน์ส่วนอื่นของร่างกายมนุษย์
ครีม ครีมจะช่วยปกป้องผิวไม่ให้หมองคล้ำและได้รับอันตรายจากรังสีความร้อน และมีส่วนช่วยในการปรับสภาพผิวที่หมองคล้ำ ไหม้ ให้สีผิวสว่างใส มีลักษณะของผิวหนังที่ดีขึ้น
ปลูกต้นไม้ดูดซับรังสี ต้นกระบองเพชรสามารถช่วยลดปริมาณรังสีจากคอมพิวเตอร์ได้ซึ่งได้ข้อมูลมาจาก บทความเกี่ยวกับความเจ็บป่วยจากจอคอมพิวเตอร์ของโรเจอร์ได้อ้างถึงผลวิจัย ของสถาบัน Recherches en Geobiologie ของสวิตเซอร์แลนด์ นอกจานี้ต้นกระบองเพชรมีขนาดต้นที่เล็กและกระทัดลัดทำให้ดูไม่เกะกะ เมื่อออกดอกจะมีสีสันสวยงามทำให้ดูผ่อนคลายได้
ทานผักผลไม้ ผลไม้มีส่วนช่วยในการป้องกันจากผลกระทบของรังสีเนื่องจากผลไม้อุดมไปด้วย วิตามินและสารอาหารหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อผิวหนังของมนุษย์เช่นวิตามิน ซีที่ส่วนช่วยในการสร้างคลอลาเจนมีวิตามิน E ช่วยทำให้เพิ่มอายุของคอลาเจนใต้ผิว lycopene ป้องกันผิวเสียจากรังสียูวี เบต้าแคโรทีน ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ อาหารที่จำเป็นสำหรับผิว วิตามินและสารอาหารเหล่านี้มากได้ในมะนาว ส้ม กีวี หรือพบในผักพวกมะเขือเทศ แครอท ถั่วฝักยาว เป็นต้น นอกจากนี้ผลไม้ยังช่วยในการบำรุงและเป็นประโยชน์ส่วนอื่นของร่างกายมนุษย์
การปฏิบัติตนในการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อป้องกันรังสีจากคอมพิวเตอร์
ควรให้หน้าจอภาพคอมพิวเตอร์อยู่ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 20 องศา และระยะในการมองควรอยู่ระหว่าง 50-70 เซนติเมตร
: ควรนั่งเก้าอี้ให้อยู่ระดับพอดี โดยให้หัวเข่าตั้งฉาก 90 องศา และเมื่อนั่งแล้วควรนั่งหลังตรงหรือนั่งให้หลังพิงกับพนักพิง
: ในระหว่างที่ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานควรมีการหยุดพัก เพื่อให้ร่างกายได้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อและพักสายตา
: ควรตั้งหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้ตัวหนังสือมืดบนพื้นสว่างในระดับความสว่างของแสงประมาณ 300-500 ลักซ์
: ควรนั่งเก้าอี้ให้อยู่ระดับพอดี โดยให้หัวเข่าตั้งฉาก 90 องศา และเมื่อนั่งแล้วควรนั่งหลังตรงหรือนั่งให้หลังพิงกับพนักพิง
: ในระหว่างที่ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานควรมีการหยุดพัก เพื่อให้ร่างกายได้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อและพักสายตา
: ควรตั้งหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้ตัวหนังสือมืดบนพื้นสว่างในระดับความสว่างของแสงประมาณ 300-500 ลักซ์
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น